หลังจากที่ได้รับเครื่องปริ้นบาร์โค๊ดมาแล้ว ก็รีบทำการลิสต์สินค้าลงใน Amazon อันดับแรกนั้น เราสมัครลงขายแบบเป็น Individual ก่อน เพื่อให้คุ้นเคยกับกระบวนการ วางแผนเอาไว้ว่าถ้าเราได้สินค้าตัวเจ๋งๆ เพื่อมาทำเป็นแบรนด์ของเรา (Private Label) เมื่อใหร่ แล้วถึงจะ Upgrade มาเป็นแบบ Professional ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายต่อเดือน ราวๆ เดือนละ $40 ณ ขณะนี้ถือว่าอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปพลางๆ ก่อน
หลังจากลงรายการสินค้าที่เว็บเสร็จ ก็เป็นขั้นตอนการปริ้นบาร์โค๊ต เพื่อติดสินค้าที่จะส่งไปให้เค้าขายทุกชิ้น Dymo LabelWriter ทำงานได้ดีมาก ไม่ถึง 10 นาที ก็เสร็จแล้ว
สินค้าที่ส่งไปนั้น มี 5 แบบ แบบละ 9 กล่อง ดังนั้น Amazon ให้เราส่งไปที่ warehouse ของเค้า 3 ที่ คือ Florida, Virginia และ Arizona คละแบบกัน อันนี้เค้าจะกำหนดมาให้เลย หน้าที่เราก็คือ จัดสิน้าลงกล่องใหญ่ไปตามที่เค้ากำหนดมาให้ถูกต้อง แล้วก็ปริ้นเลเบล แปะหน้ากล่องเป็นอันเสร็จสับ
ค่าขนส่งนั้นเราเลือกใช้ UPS ซึ่งเป็น Account ของ Amazon ซึ่ง เมื่อเรายอมรับให้ Amazon หักค่าขนส่งจากบัตรเครดิตแล้ว ก็สามารถปริ้น เลเบลแปะหน้ากล่องแล้วนำไปส่งที่ UPS Store ได้เลยทุกสาขา โอแม่เจ้า ค่าขนส่งมันถูกเหมือนโกหก กล่องที่ส่งไป Florida น้ำหนัก 16 กก. ค่าขนส่งอยู่ที่ 8 เหรียญ (หรือราวๆ 260 บาท) และกล่องที่ส่งไป Virginia และ Arizona น้ำหนัก 16 กก. เท่ากัน ค่าขนส่งอยูที่ 12 เหรียญ (ราวๆ 390 บาท) ถูกจนน่าใจหาย
เมื่อของไปถึง Amazon Warehouse เมื่อใหร่ สินค้าเราก็จะ Live หรือ โชว์ขาย/พร้อมส่งที่ Amazon.com ทันที เย้ๆๆๆๆๆๆ
